พัฒนาการไม่สมวัย จะรู้ได้ไง (M&C แม่และเด็ก)
โดย: ปัณณ์
พ่อแม่ก็สามารถสังเกตลูกน้อยของตัวเองในระดับเบื้องต้นได้ ว่าพัฒนาการของลูกมีปัญหาหรือเปล่า เพราะความผิดปกติบางอย่างก็อาจบอกได้จากพัฒนาการเหมือนกัน
หม่ำ ๆ ร้อง ๆ 0-3 เดือน
อย่างนี้สิปกติ
หันหน้าไปหาเสียงพูดหรือเสียงเพลง
มองและหันหน้าตามของที่เคลื่อนไหว
แสดงอารมณ์ทางสีหน้าเมื่อเจอคนที่คุ้นเคย
มองและหันตามของเล่นที่เคลื่อนไหว
เริ่มตีสิ่งของและคว้าเข้ามาหาตัว
ส่งเสียงอืออา ตอบรับเสียงที่ได้ยิน
ตาสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้
มีความสนใจต่อสิ่งต่างๆ ได้นานระดับหนึ่ง
มีแนวโน้มผิดปกติ
ไม่สะดุ้งหรือตกใจเมื่อเกิด เสียงดัง
ไม่มองตามมือตนเองเลย
ไม่ยิ้มหรือมีปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อคุยเล่นด้วยหลังอายุ 2 เดือน
ไม่มองตามของเล่นเลยเมื่ออายุ 2-3 เดือน
ไม่ยอมจับหรือถือของเล่นเมื่อ อายุ 3- เดือน
ไม่ทำเสียงครางเมื่ออายุ 3- เดือน
ตาเขตลอดเวลา (อาการตาเขบางครั้งยังถือว่าปกติ)
ไม่สนใจคนแปลกหน้าหรือสิ่งแวด ล้อมใหม่ๆ เลย
เล่นเสริมพัฒนาการ โมบายล์ปลาตะเพียนที่มีสีสันสดใส เปิดกล่องเพลงหรือร้องเพลงให้ลูกฟัง
อ้อแอ้ ไขว่คว้า -7 เดือน
อย่างนี้สิปกติ
ยันตัวเริ่มคลาน อาจจับสิ่งของเพื่อดึงตัวเองขึ้น
นั่งได้นานแม้ไม่พยุง และเริ่มหยิบจับของเล่น
ถือของได้ข้างละอัน อาจจับมากระทบกัน
ชอบดูดนิ้วและเริ่มหยิบอาหารเข้าปาก
พลิกคว่ำได้คล่องแคล่ว
ตามองตามสิ่งของไปในทางเดียว กัน
ชอบของเล่นมีเสียง
มีอารมณ์คึกคักบ่อยขึ้น
แสดงความต้องการเป็นคนหนึ่งในสังคม
มีแนวโน้มผิดปกติ
เคลื่อนไหวขาไม่คล่อง กล้ามเนื้อแข็งและเกร็ง
เวลาจับอยู่ในท่านั่ง ตัวอ่อนปวก- เปียก ศีรษะตกไปอยู่ด้านหลัง
ใช้มือได้ข้างเดียว
เอาของใส่ปากลำบาก
ไม่พลิกตัวเองเมื่ออายุ 5 เดือน
ตาข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างเบน ออกข้างนอกหรือเข้าข้างใน
ไม่หันตามเสียง
ไม่หัวเราะเสียงดังเมื่ออายุ 6 เดือน
ไม่เล่นจ๊ะเอ๋หรือตอบสนองคนรอบ ข้าง
เล่นเสริมพัฒนาการ ลูกบอลนิ่ม ๆ สีสดใส เล่นแล้วเกิดเสียง ของเล่นที่มีลูกปัดข้างใน เขย่าแล้วเกิดเสียงหนังสือเด็กรูปสัตว์สามมิติ
ต้วมเตื้ยม เตาะแตะ - 12 เดือน
อย่างนี้สิปกติ
ยืนได้ด้วยตัวเองตามลำพัง อาจโยกตัวเล่นไปมา
ค้นหาของที่เอาไปซ่อนต่อหน้าได้สำเร็จ
พูดได้มากกว่าคำว่า พ่อ แม่ ชอบพูดงึมงำคนเดียว
รู้สัญลักษณ์ของวัตถุ เช่น พูดคำว่าหมาก็ทำเสียงคำรามตาม
ชี้ของผ่านกระจกใสได้
มีแนวโน้มผิดปกติ
ยังไม่คลานและไม่ยอมยืนเมื่อจับ ให้ยืน
ไม่ค้นหาของที่ซ่อน แม้เด็กจะเห็นว่าซ่อนที่ไหน
ไม่เรียกพ่อแม่หรือคำง่ายๆ เมื่ออายุ 1 ปี
ไม่เรียนรู้ท่าทางเช่น บ๊ายบาย สั่นศีรษะ
ไม่ชี้ที่รูปหรือสิ่งของ
เล่นเสริมพัฒนาการ หัดดื่มน้ำจากถ้วย หัดเล่นกับพี่น้อง หรือเพื่อน หนังสือสีสดที่มีตัวสัตว์และตัวหนังสือหรือตัวเลข
พัฒนาการ ดีหรือไม่ มาจาก
สุขภาพเด็ก แน่นอนค่ะ หากเด็กที่มีสุขภาพดี จะมีพัฒนาการที่เร็วและสมบูรณ์กว่าเด็กที่อ่อนแอ เพราะกำลังในการเคลื่อนไหว ของเด็กที่อ่อนแอจะมีน้อยกว่านั่นเอง
ความสุข เด็กที่มีความสุข ความสบายใจ อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น จะมีพัฒนาการที่รวดเร็วกว่าในครอบครัวที่หย่าร้าง หรือให้ความอบอุ่นกับเด็ก ไม่เพียง-พอ เพราะภาวะเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้เด็กเกิดความเครียดและรู้สึกเศร้าหมองได้
ความแกร่ง เด็กที่มีความแกร่งนั้น เกิดมาจากความรักความอบอุ่นของพ่อแม่ที่ให้เขาอย่าง เพียงพอ จนทำให้เขามีความมั่นใจ รู้สึกปลอดภัย กล้าที่จะเรียนรู้ ต่อสู้กับปัญหาเฉพาะหน้าได้ในอนาคต
สมองผิดปกติ
พัฒนาการ ที่ผิดปกติและอันตรายที่สุดคงจะหลีกหนีความผิดปกติของสมองไม่ได้ เพราะความผิดปกติของสมองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและรักษาได้ลำบาก ซึ่งความผิดปกตินี้สังเกตได้จากพัฒนาการตั้งแต่เล็กเช่น การไม่สนใจสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งรอบข้างทั้งๆ ที่ถึงวัยที่สมควรแล้ว คลานหรือเดินงุ่นง่านอยู่คนเดียว น้ำลายยังไหลมุม ปากแม้อายุเกิน 1 ขวบแล้ว จับโน่นนี่ไร้เป้าหมาย ซึ่งเรา อาจต้องช่วยลูกในการฝึกกิจกรรมพัฒนาสมอง เล่นเกม พูดคุยกับลูกบ่อยๆ เพื่อให้ลูกได้พัฒนาให้มากที่สุด
การได้ยิน ผิดปกติ
หากลูกเราไม่มีอาการตกใจเวลาเสียงดังหรือเรียกแล้วไม่หันตามเสียง แกอาจมีปัญหาการได้ยินก็เป็นได้ ลองสังเกตดูและรีบตัดสินใจพาลูกไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้การดูแลรักษาได้ทันท่วงที
เห็นแบบนี้พ่อแม่อย่าเพิ่งตกใจหรือกังวลจนมากเกินไป เพราะพัฒนาการของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจช้าหรือเร็วไปจากเกณฑ์มาตรฐานทั่วๆ ไป หรืออาจเกิดจากองค์ประกอบอื่น ๆ
ตัวอย่าง เช่น การที่เด็กใช้มือข้างเดียวหยิบจับของบ่อยๆ อาจจะเป็นเพราะเด็กมีความถนัดในมือข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป หากสังเกตอีกระยะหนึ่ง เด็กก็ยังไม่ใช้มืออีกข้างก็ควรจับมือเด็กข้างนั้นให้ จับหรือถือของเล่น เพื่อช่วยเด็กในการพัฒนากล้ามเนื้อค่ะ แต่ขณะเดียวกันถ้ามือเด็กดูไม่มีแรง หยิบจับของไม่ได้เลย เห็นทีควรปรึกษาแพทย์จะดีกว่าและอยากฝากไว้สักนิดค่ะว่า ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงเกณฑ์เปรียบเทียบคร่าว ๆ ไม่ใช่มาตรฐานตายตัว เพียงแต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้จักสังเกตลูก และพบสิ่งผิดปกติได้ไวก็จะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
No comments:
Post a Comment
เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นต่างๆได้นะครับ